ในปัจจุบัน
กระแสการสวมใส่ผ้าไทยมีความตื่นตัวกันอย่างมาก ทั้งภาครัฐและเอกชน
ต่างพากันรณรงค์ให้ประชาชนและบุคลากรในองค์กรได้สวมใส่ เพื่อให้เกิดความรัก
ความหวงแหน และภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย
ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก็มีเอกลักษณ์ความโดดเด่นของผ้า และลวดลายเป็นของตนเอง “ผ้าขาวม้า” ก็เป็นหนึ่งในประเภทที่แสดงถึงความเป็นไทย มีประโยชน์ใช้สอยได้มากมาย
ส่วนใหญ่คนทั่วไป
โดยเฉพาะผู้ชาย ก็จะคุ้ยเคยกับการใช้ผ้าขาวม้าเป็นผ้าเช็ดตัว ผ้านุ่ง คลุมไหล่
โผกหัว แม้กระทั่งนำบางคนถึงกับนำมาป้ายยาสีฟัน ใช้แทนแปรงสีฟันกันเลยทีเดียว ฯลฯ แต่มีไม่กี่คนที่จะนำผ้าขาวม้าไปประยุกต์ใช้ตัดเป็นชุดแนวแฟชั่น
เสื้อผ้าสวมใส่ และทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
พีรดา สิทธิสาร หรือ
“ตอง” หญิงสาวชาวบ้านไร่ม่วง ต.น้ำหมาน
อ.เมือง จ.เลย เป็นหนึ่งผู้ที่มีความหลงไหลในเสน่ห์ของผ้าไทย
เป็นนักสะสมผ้าโบราณ โดยเฉพาะผ้าขาวม้า
จากที่เคยออกแบบและตัดชุดจากผืนผ้าขาวม้าสวมใส่เอง จนนำไปสู่การต่อยอดทำธุรกิจ สร้างแบรนด์หรือยี่ห้อ
“หยานัด” ยกระดับผ้าขาวม้าธรรมดาให้เต็มไปด้วยเรื่องราวและคุณค่า
นำผลิตภัณฑ์ผลงานแห่งความภาคภูมิใจของคนเมืองเลยออกให้ชาวโลกได้รับรู้
พีรดาเล่าว่า เดิมก็ชอบเรื่องผ้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะผ้าไทย
แม้ว่าจะเรียนจบด้านการทำอาหารมา แต่ส่วนใหญ่มักจะคลุกคลีอยู่กับเรื่องผ้า และเห็นว่าผ้าขาวม้ามีเสน่ห์ในตัวเองอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีใครดึงออกมาใช้ ตองจึงเอามาออกแบบแล้วตัดเป็นชุดแฟชั่น
ทำให้ดูหรูหราขึ้น สวมใส่ออกงานต่างๆได้ แต่ละวันก็ไม่ซ้ำสีและลวดลาย
จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพื่อนๆเห็นก็รู้เลยว่านี่คือชุดผ้าขาวม้าของตอง
แล้วก็ขอซื้อ ทำให้เราคิดว่าน่าจะทำออกมาขายบ้าง
ตองเล่าอีกว่า หลังจากนั้นก็ได้เดินหน้าติดแบรนด์ให้ชุดผ้าขาวม้า
โดยใช้คำว่า “หยานัด” แปลว่า “สับปะรด” มาจากภาษาในรัฐปัตตานี ซึ่งพ่อเป็นคนจังหวัดปัตตานี
แม่เป็นคนบ้านไร่ม่วง จ.เลย
บ้านไร่ม่วงเป็นแหล่งปลูกสับปะรดชั้นดีของเมืองเลย จึงนำเอาคำว่า “หยานัด”
มาเป็นชื่อแบรนด์ผ้า เป็นการช่วยโปรโมทสับปะรดไร่ม่วงไปในตัวด้วย บ่งบอกถึงเอกลักษณ์
ความภูมิใจของชาวบ้านไร่ม่วงและชาว จ.เลย อีกทั้งยังเป็นชื่อที่น่ารัก
และจดจำได้ง่าย
ส่วนผ้าที่นำมาตัดชุดก็สั่งจากกลุ่มแม่บ้านทั่วจังหวัดเลย
แหล่งใหญ่ที่สุดคือ กลุ่มทอผ้าชุมชนวัดจอมมณี
เทศบาลเมืองวังสะพุง ตองก็จะออกแบบ เขียนลายไปให้กลุ่มแม่บ้านทอตามที่สั่ง
เป็นการสนับสนุนให้กำลังใจชาวบ้านไปด้วย
ซึ่งต้องใช้ผ้าที่ทอในจังหวัดเลยเท่านั้น และไม่ต้องการเน้นปริมาณ
แต่ต้องการผ้าที่มีคุณภาพ ทอด้วยความตั้งใจ ซึ่งกลุ่มแม่บ้านก็ดีใจ
ทำงานด้วยความสุข มีรายได้ ไม่ต้องว่างงาน
นอกจากชุดเสื้อผ้าแล้ว
ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆภายใต้แบรนด์ “หยานัด” เช่น กระเป๋า หมวก
หรือผ้าพันคอ แรกๆก็ขายให้กลุ่มคนรู้จักและเพื่อน
ช่วงหลังก็นำไปฝากวางขายร้านที่แก่งคุดคู้
ปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด ทั้งๆที่ราคาค่อนข้างสูง
ทำให้เป็นแรงผลักดันผลิตชุดผ้าขาวม้าออกขายมากขึ้น ตั้งใจไว้ว่าจะมีร้านขายอำเภอละ
1 แห่ง
หลังจากที่ผ้าแบรนด์”หยานัด”
เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการแล้ว ทางหน่วยงานราชการก็เข้ามาชักชวนให้ไปออกร้าน
และนำชุดไปเดินแฟชั่นโชว์พร้อมประกวดในงานดอกฝ้ายบานฯปี 2562 ด้วยความโดดเด่น
ลวดลายผ้าขาวม้า เส้นผ้าฝ้าย 100 % ทักทอด้วยความประณีตหลากหลายสีสัน
ประกอบกับการออกแบบตัดชุดสวยงามลงตัว ทำให้ติดอันดับ 1 ใน 5
ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นเพียงช่วงเริ่ม
คนก็ให้ความสนใจอย่างมาก
ตองบอกว่า
ในอนาคตอันใกล้นี้ มีโครงการจะเปิดเป็นตลาดผ้าไทเลยที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด
เพื่อให้เป็นแหล่งรวมผ้าไทเลยจากทุกแห่ง มาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่
รองรับนักท่องเที่ยงที่จะเดินทางมาเยือน จ.เลยอีกด้วย หากความต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้น
กลุ่มทอผ้ากลุ่มคงไม่เพียงพอ
ดังนั้นกลุ่มทอผ้าทั้งจังหวัดก็จะมีรายได้มากขึ้นตามไปด้วย พีรดากล่าว
สนใจเยี่ยมชมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
“หยานัด” ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0910646798.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น